7 ขั้นตอนการดูแลผิวหน้าไม่ให้หมองคล้ำ
League88Joz หลายครั้งเราอาจเคยโดนทักว่า ไปทำอะไรมาทำไมหน้าหมองคล้ำจัง หรือบางคนอาจทักหนักกว่านั้นว่า นี่เธอทำไมหน้าหมองคล้ำเหมือนคนโดนของเลยล่ะ เวลาโดนทักกันแบบนี้ก็ถึงกับเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจกันไปเลยทีเดียว ต้องแอบไปส่องกระจกดูใบหน้าว่า หน้าตาตัวเองเป็นอย่างไร พอได้ส่องกระจกดูจริง ๆ จัง ๆ ตัวเราเองอาจรู้สึกตกใจว่า ทำไมใบหน้าถึงหมองคล้ำขนาดนี้ ต้องรีบหาวิธีบำรุงเพื่อให้ใบหน้ากลับมาสดใสเหมือนเดิม
วันนี้เราก็มีวิธี 7 ขั้นตอนการดูแลผิวหน้า ทำให้ใบหน้าลดความหมองคล้ำ
มีความกระจ่างใส ิผิวเนียนนุ่ม และดูมีสุขภาพดีเป็นธรรมชาติมาฝากกันด้วยค่ะ
เราไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราต้องทำอะไรกันบ้าง
ขั้นตอนที่ 1ทำความสะอาดผิวหน้า
การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ โดยก่อนล้างหน้า
ควรเช็ดเครื่องสำอางให้ออกหมดก่อนด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผิวหน้า
เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วก็ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง
หลังล้างหน้าเสร็จ ก็ใช้โทนเนอร์เช็ดอีกครั้ง เป็นสิ่งสุดท้ายสำหรับการทำความสะอาดหน้า
เพราะโทนเนอร์จะช่วยกระชับรูขุมขขนค่ะ และควรใช้โทนเนอร์ชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ
เพราะจะทำให้ผิวแห้งตึงเกินไปค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ผลัดเซลล์ผิวเก่าออก
ทำไมต้องให้เซลล์ผิวเก่าถูกขจัดออกไป
เพราะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ก็เนื่องมาจากเซลล์ผิวเก่าไม่หลุดลอกออกไปหรือหลุดลอกช้า
ทำให้เกิดการหมักหมมของเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพเป็นจำนวนมากค่ะ
ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำแล้วยังทำให้ผิวหยาบกร้านด้วย
และส่งผลให้การดูดซึมของครีมบำรุงลงสู่ชั้นผิวหนังได้น้อยลง
ดังนั้นจึงควรหมั่นสครับหน้าอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเก่าหลุดลอกออกไป
และจะได้เซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งจะทำให้หน้าดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ
ขั้นตอนที่ 3 ประคบผิวหน้าด้วยไอน้ำและทาครีมบำรุง
วิธีง่าย ๆ
ในการประคบผิวหน้าด้วยไอน้ำ คือ เตรียมน้ำอุ่นไว้ แล้วนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นและบิดหมาด
ๆ เสร็จแล้วนำมาประคบบนผิวหน้า
เพื่อช่วยให้รูขุมขนเปิดออกและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนใบหน้า
หลังจากประคบหน้าแล้วก็ทาครีมบำรุงต่าง ๆ ได้เลย เพราะเมื่อรูขุมขุนเปิด
การทาครีมบำรุงเหล่านี้ก็จะสามารถลงไปถึงชั้นที่ลึกที่สุดได้ สำหรับคนหน้ามันพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำมันค่ะ
เพราะจะลงไปอุดตันในรูขุมขนได้ และยังทำให้หน้ามันยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
หรือในขณะที่ทาครีมอาจจะนวดหน้าเบา ๆ ไปพร้อมกันเลยก็ได้ค่ะ
ก็จะยิ่งช่วยให้การทาครีมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ
ขั้นตอนที่ 4ทาครีมกันแดด
ขั้นตอนนี้เป็นอีกขั้นตอนสำคัญ
เพราะในชีวิตประจำวันเราต้องเผชิญกับแสงแดด
และแสงจากจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งส่งผลต่อผิวหน้าของเรา
ฉะนั้นจึงควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง เผื่อป้องกันจากแสงเหล่านี้ ซึ่งจะทำให้เกิดฝ้า
กระ ริ้วรอยต่าง ๆ ขึ้นมาได้ค่ะ
ขั้นตอนที่ 5 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกาย
และช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดด้วยค่ะ ซึ่งจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
รู้สึกสดชื่นได้ทุกวันค่ะ
ขั้นตอนที่ 6 ดื่มน้ำสะอาด
การดื่มน้ำที่สะอาดในจำนวนที่เพียงพอต่อร่างกายทุกวัน
จะช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุล และยังส่งผลต่อผิวอีกด้วยค่ะ
ซึ่งปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวันโดยเฉลี่ย คือ 6 – 8 แก้ว ค่ะ
ขั้นตอนที่ 7 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ
6 – 8 ชั่วโมง และนอนในช่วงที่ Growth Hormone ทำงาน ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้เป็นฮอร์โมนที่จะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกาย
หรือที่เรียกกันว่า ฮอร์โมนหนุ่มสาว เวลาที่ฮอร์โมนชนิดนี้หลั่ง
คือช่วงเวลาตั้งแต่ 4 ทุ่ม จนถึงตี 5 และจะหลั่งออกมาดีที่สุด
คือ ช่วงเวลาเที่ยงคืนจนถึงตอนตี 1 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่หลับลึกที่สุด
ดังนั้นจึงควรนอนก่อนตี 1 เพื่อให้เราได้รับ Growth
Hormone อย่างเต็มที่
ฉะนั้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและนอนเวลาที่เหมาะสม
ก็จะช่วยให้ทั้งร่างกายและผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีออร่า ใบหน้ากระจ่างใส สดชื่น
ดูอ่อนกว่าวัยด้วยค่ะ
นอกจากวิธีการที่นำเสนอมานี้แล้ว
การไปทำทรีตเม้นต์ที่คลินิกหรือสถานเสริมความงามก็ช่วยเรื่องลดความหมองคล้ำของใบหน้าได้ค่ะ
เช่น โปรแกรมทรีตเม้นต์ Cryo
Bright ที่ Apex เป็นทรีตเม้นท์ที่ช่วยปรนนิบัติผิวสวย
ด้วยการเติมสารอาหารบำรุงต่าง ๆ ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการฟื้นฟูสภาพผิว
สามารถส่งผ่านสารอาหารลงไปใต้ชั้นผิวได้ลึกกว่าการนวดหน้า
หรือการทาครีมบำรุงผิวทั่วไป โดยใช้แสงเป็นตัวบำบัดผิว
ซึ่งแสงแต่ละสีจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันและช่วยรักษาปัญหาของผิวแตกต่างกันไป
โดยแสงแต่ละสีที่ใช้ปรนนิบัติผิว ได้แก่ Blue Light (แสงสีฟ้า)
ช่วยยับยั้งปัจจัยการเกิดสิวและป้องกันการติดเชื้อใหม่, Yellow Light (แสงสีเหลือง) ช่วยกระตุ้นระบบน้ำเหลือง รวมถึงระบบการไหลเวียนโลหิต
ลดการอักเสบ และบวมแดงของผิวหลังทำเลเซอร์, Red Light (แสงสีแดง)
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน
รักษาผิวที่ถูกเผาไหม้จากแสงแดด และลดเรือนริ้วรอย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก apexprofoundbeauty.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น