5 เคล็ดลับการดูแลดวงตาของลูกน้อยให้สดใส
League88Joz ดูแลดวงตาของลูกน้อย อวัยวะชิ้นเล็ก ๆ
ที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อย คุณแม่รู้หรือไม่ว่า
ดวงตาของเด็กเล็กมีความละเอียดอ่อนต่อแสงอย่างมาก
เพราะเซลล์เยื่อหุ้มประสาทตายังไม่สามารถทนต่อรังสียูวีจากแสงแดดจัดยามบ่ายได้
ถ้าลูกน้อยจำเป็นต้องออกนอกบ้านช่วงเวลาบ่าย ๆ
อาจจะทำให้แสงยูวีทำลายเซลล์จอประสาทตาได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคกับดวงตาของเด็กเล็ก
วันนี้เรามีเคล็ดลับการดูแลดวงตาของเด็กเล็กให้สดใสขึ้นด้วยวิธีง่าย ๆ มาแนะนำค่ะ
สังเกตสุขภาพของดวงตาลูกสม่ำเสมอ
ในทุกวันลูกจะต้องพบเจอกับสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น
ผง และควัน ถ้าลูกน้อยเบิงเอิญโดนเศษผงเข้า
คุณแม่ก็สามารถหาวิธีการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อดวงตาที่รุนแรง จนถึงขั้นอักเสบได้
การสังเกตคุณแม่ควรจะทำอย่างสม่ำเสมอ หากมีอะไรผิดปกติ หรือสงสัยว่าดวงตาของลูกมีปัญหา
อย่างเช่น ตาดำดูผิดปกติ ตาเหล่ (เป็นบางครั้ง) หรือหนังตาข้างใดข้างหนึ่งตกลง
อย่างนี้แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ หรือพาลูกไปหาจักษุแพทย์โดยตรง
เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไป
อาการภาวะท่อน้ำตาตัน
ซึ่งภาวะนี้เป็นอาการที่พบได้กับเด็กแรกเกิด เด็กเล็กที่มีน้ำตาไหลทั้ง ๆ
ที่ไม่ได้ร้องไห้ คุณแม่สามารถดูแลเบื้องต้นเองได้ โดยการนวดบริเวณหัวตา
ตำแหน่งของถุงทางเดินน้ำตา แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น
กึควรรีบพาไปพบแพทย์ทันทีเช่นกันค่ะ
ภาวะดวงตาติดเชื้อ คุณแม่อาจสังเกตเห็นสีเหลืองปนเขียว
หรือหนังตาบวมแดงร่วมด้วย
อาการนี้จะแสดงก็ต่อเมื่อดวงตาของลูกน้อยเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ
แบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ที่มาจาฝุ่นละอองในอากาศ
คุณแม่จะต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์ในทันทีที่เห็นความผิดปกตินี้
ภาวะตาแฉะ ส่วนมากเกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในดวงตา
ทำให้ลูกมีขี้ตามาก และอาจเกิดจากการแพ้สารเคมี (สารซิลเวอร์ไนเตรด)
ที่หยอดหลังคลอดทำให้ตาแฉะได้ แนะนำให้คุณค่อยเช็ดน้ำตาอย่างสม่ำเสมอ
แล้วอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองค่ะ
นอกจากนี้คุณแม่สามารถเช็คพัฒนาการด้านการมองเห็นของลูกน้อยได้
เช่น เมื่อลูกอายุได้ 3 เดือนแรกหลังครอด
ลูกยังไม่สามารถหันมองวัตถุหรือสิ่งของที่แกว่งไปมาได้ ก็ควรตั้งเป็นข้อสงสัยว่า
พัฒนาการด้านการมองเห็นอาจจะไม่ดี
แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการป้องกันและแก้ไขต่อไปค่ะ
ดูแลดวงตาลูกน้อย อย่างถูกต้อง
การดูแลดวงตาของลูกน้อยเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนคุณแม่จะต้องระมัดระวังให้มาก
ถึงแม้คุณแม่มือใหม่หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่มีประสบการณ์
แต่เราก็มีวิธีการดูแลดวงตาของเจ้าตัวเล็กแบบถูกต้องและทำได้ง่าย ๆ
โดยการหมั่นดูแลเรื่องความสะอาด ทั้งเครื่องนอนและอุปกรณ์ต่างๆ ที่บริเวณใบหน้า
หรือดวงตาลูกอาจสัมผัส เช่น การเปลี่ยนผ้ารองที่นอนหมอนที่ลูกหนุน
เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ และถ้าสังเกตว่า
ดวงตาของลูกมีขี้ตามากให้ทำความสะอาด โดยใช้สำลีชุบน้ำต้มสุกอุ่น ๆ
เช็คจากหัวตาไปยังหางตา
ที่สำคัญต้องเปลี่ยนก้อนสำลีใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนข้างด้วยเพื่อความสะอาด
ใช้ยาอย่างถูกต้อง ตามแพทย์แนะนำเท่านั้น
ดวงตามีเนื้อเยื่อที่บอบบางอย่างมาก
สามารถติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้น
การเลือกใช้ยากับเด็กเล็กคุณแม่จึงต้องระวังอย่างมาก
ไม่แนะนำให้เลือกใช้ยากับดวงตาของลูกน้อยด้วยตัวเอง หากลูกจำเป็นต้องใช้ยาหยอดตา
ควรเป็นยาที่แพทย์เป็นผู้จ่ายให้
คุณแม่ไม่สามารถไปเลือกซื้อตาร้านขายยาทั่วไปได้นะคะ
สำหรับวิธีการใช้ยาหยอดตา
คุณแม่จะต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนหยอดตา ในขณะหยอดตาก็ต้องระมัดระวัง
ไม่ให้หยดแตะกับตาหรือขนตา และเมื่อเปิดใช้แล้ว
ก็ควรเก็บยาไว้ในที่เย็นในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน ที่สำคัญไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกับเด็กอื่น
เพราะอาจจะทำให้ลูกเกิดการติดเชื้อโรคของเด็กอื่นได้ ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากค่ะ
เรื่องต้องห้ามสำหรับเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา
เมื่อคุณแม่พบว่าลูกมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา
ไม่ว่าจะมีอาการบวมแดง มีอาการน้ำตาไหลผิดปกติ หรือมีอาการตาแฉะ
คุณแม่ก็ควรหลีกเลี่ยงการพาลูกไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยมลภาวะเป็นพิษ ฝุ่นควัน
หรือลมแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้ดวงตาของลูกเกิดอาการรุนแรงขึ้นจากการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ ไม่ควรให้ลูกใช้มือแคะ แกะ
หรือเกาบริเวณรอบ ๆ ดวงตา เพราะอาจจะทำให้อาการระคายเคืองมากกว่าเดิมได้
และเมื่อคุณแม่มีความต้องการใช้ยา ก็ไม่แนะนำให้ซื้อมาใช้เอง
เพราะดวงตาของเด็กเล็กมีความละเอียดอ่อนอย่างมาก
ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนกับดวงตาของผู้ใหญ่
ยาหยอดตาทั่วไปอาจจะมีฤทธิ์ที่รุนแรงจนเกิดการอักเสบหรือเข้าไปทำลายเยื่อหุ้มจอประสาทตาได้
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อดวงตาน้อย ๆ ของลูกรัก
คุณแม่ต้องปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเมื่อลูกมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา
เพื่อรับการป้องกันและการรักษาอย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียดวงตาของลูกรักได้
เพิ่มพัฒนาการด้านการมองเห็นด้วยการเรียนรู้
ถึงแม้ดวงตาน้อย ๆ
จะเป็นอวัยวะชิ้นเล็ก ๆ แต่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กับอวัยวะอื่น ๆ ภายในร่างกาย
ดังนั้น เพื่อให้ดวงตามีพัฒนาการอย่างสมบูรณ์แบบ
คุณแม่จะต้องช่วยส่งเสริมด้านการมองเห็นให้กับลูกรัก โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ
ในชีวิตประจำวันของลูกให้มากขึ้น และเพิ่มพัฒนาการด้านความจำด้วยการเปิดภาพสวย ๆ
เกี่ยวกับธรรมชาติ รูปสัตว์ หรือรูปดอกไม้เพื่อให้ลูกได้รู้
และกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็นให้กับลูกน้อยได้อีกด้วย
เมื่อคุณแม่มือใหม่รู้เคล็ดลับดี ๆ
เกี่ยวกับการดูแลดวงตาน้อย ๆ ของลูกแล้ว
คุณแม่ก็ต้องคอยสังเกตความเปลี่ยนแปลงของดวงตาลูก เพื่อให้ลูกมีดวงตาที่สดใส
สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ พัฒนาการที่ดีของลูกคุณแม่สร้างได้ง่าย
ๆ เพียงดูแลค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก konthong.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น