โรคหืดหอบ (Asthma) ปัญหาทางเดินหายใจที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว - League88Joz

Gclubth เว็บไซต์พนันออนไลน์การันตี อันดับ 1 ของคนเล่น

gclub , จีคลับ

Breaking

Post Top Ad

Post Top Ad

Responsive image

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

โรคหืดหอบ (Asthma) ปัญหาทางเดินหายใจที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว


โรคหืดหอบ (Asthma) ปัญหาทางเดินหายใจที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

League88Joz โรคหืด (Asthma) เป็นโรคที่หลอดลมมีการตีบแคบ เนื่องจากหลอดลมมีการอักเสบเรื้อรัง จึงทำให้หลอดลมมีความไวต่อสารกระตุ้นต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้และมลพิษ

อาการบ่งชี้ของโรคหืด

  1. อาการไอ โดยเฉพาะเวลาออกกำลังกายหรือไอเวลากลางคืน
  2. หายใจเสียงวี๊ด
  3. แน่นหน้าอก หายใจติดขัดหรือมีอาการเหนื่อยหอบที่เป็นซ้ำๆ
  4. อาการมักเกิดขึ้นตอนกลางคืน จึงอาจทำให้ต้องตื่น
  5. อาการจะกำเริบในบางฤดูหรือสัมพันธ์กับสารกระตุ้นบางชนิด
  6. เมื่อใช้ยารักษาโรคหืด เช่น ยาขยายหลอดลม แล้วอาการต่างๆ จะดีขึ้น
  7. มีอาการหวัดลงปอดหรือการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนล่างซ้ำๆ
  8. มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดอื่นๆ เช่น โรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ภูมิแพ้ผิวหนัง และภูมิแพ้อาหาร

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหืด

1. กรรมพันธุ์ คนในครอบครัวมีประวัติภูมิแพ้
2. สารก่อภูมิแพ้ อาจสัมพันธ์กับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนแมว ขนสุนัข และเกสรดอกหญ้า
3. ปัจจัยอื่นๆ
  • การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น การติดเชื้อไวรัสบางชนิด
  • การเปลี่ยนแปลงของอากาศ
  • สิ่งระคายเคืองและมลภาวะ (Air pollution)
  • การออกกำลังกาย
  • ความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์และจิตใจ

การตรวจวินิจฉัย 

1. การวัดสมรรถภาพการทำงานของปอด (pulmonary function test)
2. การตรวจหาสิ่งกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้  โดยการเจาะเลือดหรือการทดสอบภูมิแพ้ด้วยวิธีสะกิดผิวหนัง (skin prick test)
3. การตรวจภาพรังสีและการตรวจเสมหะ
4. การตรวจพิเศษอื่นๆ เช่น การวัดความไวของหลอดลม (bronchial provocation test) หรือการทดสอบโดยการออกกำลังกาย (exercise challenge test) 

แนวทางในการรักษา

1. การใช้ยา โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกใช้ยาตามความรุนแรงของโรค และแนะนำให้ใช้ยาอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการไม่ให้เกิดโรคกำเริบ
    1.1 ยาพ่นควบคุมอาการ (controller) ที่ต้องใช้เป็นประจำทุกวันจนกว่าแพทย์จะแนะนำให้หยุดการใช้ยา
        • ยาต้านการอักเสบกลุ่มสเตียรอยด์แบบพ่น เป็นยาหลักในการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
        • ยาต้านฤทธิ์ Leukotriene
    1.2 ยาบรรเทาอาการ (reliever)
        • ยาขยายหลอดลม สามารถออกฤทธิ์บรรเทาอาการหลอดลมตีบได้อย่างรวดเร็ว
2. การเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และสารอื่นๆ ที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการ
3. การรักษาโรคร่วมที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ เช่นโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ เป็นต้น
4. การดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การออกกำลังกายที่เหมาะสม การนอนหลับให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ข้อปฏิบัติตัว เมื่อมีอาการหอบกำเริบ

1. ตั้งสติ และให้หยุดทำกิจกรรมนั้นๆ
2. ใช้ยาขยายหลอดลมตามเทคนิคที่แพทย์ได้สอนไว้
3. หากอาการหอบไม่ดีขึ้นภายใน 15-20 นาที ให้ใช้ยาซ้ำได้อีกครั้งหนึ่ง
4. หากยังมีอาการหายใจลำบาก หลังจากพ่นยาขยายหลอดลมไปแล้ว 3 ครั้ง ให้รีบไปพบแพทย์ 






ขอขอบคุณข้อมูลจาก              siph.codediva.co.th


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

โปรโมชั่น gclub