ปิดตำนาน “ร็อบเบรี” สุดยอดคู่หูแห่งประวัติศาสตร์บาเยิร์น
League88Joz ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2009 ถือเป็นวันที่ประวัติศาสตร์ลูกหนังต้องจารึกการถือกำเนิดคู่หูปีกจรวดแห่งถ้ำ
“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน และ ฟรองค์ ริเบรี
ลงสนามพร้อมกันเป็นนัดแรกภายใต้สีเสื้อทีมบาเยิร์น
หลังจากคู่หู “ร็อบเบรี” ถือกำเนิดขึ้นพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงโฉมบุนเดสลีกาเยอรมันไปตลอดกาล
ในวันนั้นบาเยิร์นเพิ่งจะทำได้เพียงเสมอในสองนัดแรกของฤดูกาล
แถมยังมาพ่ายแพ้ให้กับไมนซ์ 2-1 ประตูอีก
แต่การบังเกิดของคู่หูปีกจรวดทำให้บาเยิร์นเก็บชัยชนะแรกของฤดูกาลได้สำเร็จด้วยสกอร์
3-0 เหนือโวล์ฟสบวร์ก
บาเยิร์นออกนำไปก่อนจากมาริโอ
โกเมซ ก่อนที่หลุยส์ ฟาน กัล จะส่งร็อบเบนลงมาประเดิมสนามในบุนเดสลีกาเป็นเกมแรก
จากนั้นเพียง 15 นาที ร็อบเบนก็แผลงฤทธิ์
เมื่อริเบรีถูกส่งลงมาในสนาม
และเขาก็จ่ายแฮตทริคให้แข้งดัตช์แมนเบิกประตูแรกในชุดทีมเสือใต้ได้สำเร็จหลังเล่นคู่กันได้เพียงแค่
5 นาที ยังไม่หยุดแค่นั้น คู่หูปีกจรวดยังโชว์หนังม้วนเดิม
กดประตูปิดท้ายให้บาเยิร์นเก็บสามแต้มต่อหน้าแฟนบอลในสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า
* ยุคเริ่มต้น
ร็อบเบนได้ลงเป็นตัวจริงนัดแรกให้กับบาเยิร์นในสัปดาห์ต่อมา
โดยพวกเขาถล่มโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์เละเทะถึง 5-1 ประตู
ร็อบเบนทำแอสซิสต์แรกในชุดทีมบาเยิร์นได้จากประตูที่บาสเตียน
ชไวน์ชไตเกอร์ยิงออกนำ 2- 1 ส่วนริเบรีนั้นถูกเปลี่ยนตัวลงมายิงประตูแรกของเขาในฤดูกาลนั้นได้ หลังจากนั้นคู่หูร็อบเบรีก็พากันถล่มประตูคู่แข่งกันสนุกเท้าเหมือนโจรล้วงกระเป๋าไม่มีใครจับได้
สองแข้งดังพากันเขียนสถิติหน้าใหม่ให้บาเยิร์น
มิวนิคได้อย่างไม่หยุดหย่อน โดยตั้งแต่เล่นคู่กันมาในถิ่นเสือใต้
พวกเขาพาบาเยิร์นเถลิงแชมป์บุนเดสลีกาถึง 8 สมัย เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย และยูเอฟ่า
แชมเปียนส์ลีกอีกหนึ่งสมัย
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนต่างก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง
สลับกันเจ็บจนได้โอกาสเล่นด้วยกันเพียงแค่ 1 ใน 3 ของเกมทั้งหมดที่พวกเขาสามารถลงเล่นด้วยกันได้
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาได้โอกาสลงเล่นพร้อมกันตลอด 334 เกมบุนเดสลีกา แต่เชื่อเถอะว่าคงมีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นในรั้วบาเยิร์นมากกว่านี้แน่
* ร็อบเบรีเผด็จศึก
อย่างไรก็ตามเมื่อคู่หูปีกจรวดสองคนนี้ได้ลงเล่นพร้อมกัน
บาเยิร์นสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 87 นัดจาก 113 เกมบุนเดสลีกา ถือเป็นอัตราชนะสูงถึง 77% หรือเฉลี่ย
2.4 แต้มต่อเกม โดยสถิติเฉพาะของริเบรีอยู่ที่ชนะ 197
นัด คิดเป็น 73% ในขณะที่ร็อบเบนมีสถิติชนะ 150
นัด คิดเป็น 76% ทั้งคู่มีส่วนร่วมในสถิติไร้พ่าย
25 นัดในฤดูกาล 2017/18 ที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีกได้
ทั้งคู่ยิงได้เลขสองตัวทั้งในฤดูกาล 2011/12 (คนละ 12
ประตู) และในฤดูกาล 2013/14 (ร็อบเบน 11
/ ริเบรี 10)
การยิงประตูที่เป็นเครื่องหมายการค้าของทั้งคู่นั้นก็คือจังหวะตัดเข้าในแล้วปั่นบอลหนีมือโกล์
ซึ่งริเบรียิงแบบนี้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 23 ครั้ง ส่วนร็อบเบนนั้นดูจะเป็นเจ้าของท่าเครื่องหมายการค้านี้มากกว่าเมื่อทำประตูได้มากกว่าถึง
5 เท่า
แต่เรื่องแอสซิสต์คงต้องยกให้ริเบรี
เมื่อดาวเตะเลือดน้ำหอมวัย 36 ปีทำสถิติจ่ายแอสซิสต์สูงสุดเป็นอันดับ
2 ในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาด้วยสถิติ 121 แอสซิสต์นับตั้งแต่ปี 1992 ตามหลังโธมัส มึลเลอร์
เพื่อนร่วมทีมผู้เป็นเจ้าของสถิติเพียงแอสซิสต์เดียวเท่านั้น
โดยร็อบเบนเองก็ทำผลงานไม่เลวที่ 62 แอสซิสต์
แต่เขายิงประตูในลีกได้มากกว่าริเบรีที่ 98 ต่อ 84 ประตู
* ฟังคู่หูพูดถึงกัน
คู่หูร็อบเบรีนั้นไม่ใช่นักเตะที่เล่นตามแผนของโค้ชเสมอไป
ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน 2012 ในห้องแต่งตัวช่วงพักครึ่งของเกมรอบรองชนะเลิศศึกยูเอฟ่า
แชมเปียนส์ลีกที่พบเรอัล มาดริด
“จุ๊ปป์ ไฮน์เกส
แบ่งหน้าที่เรา หากเป็นฟรีคิกเท้าขวา ต้องเป็นผมหรือไม่ก็โทนี โครส
ส่วนเท้าซ้ายให้อาร์เยน” ริเบรีกล่าว
“แต่อาร์เยนเข้ามาก้าวก่ายแล้วบอกว่าโทนีน่าจะเตะลูกนี้ ผมโกรธมาก ผมเดือด
เค้าก็เดือด แล้วก็อย่างที่เห็น”
“ผมแฮปปี้กับความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้มาก
น่าละอายที่เราเริ่มต้นมิตรภาพกันได้ไม่ดีนักและไม่ลงรอยกันในหลายๆ เรื่อง
แต่เราก็เป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมในตอนนี้และสนุกด้วยกันเสมอ”
“เขารู้ดีว่าเราทั้งคู่สำคัญต่อบาเยิร์นแค่ไหน
ผมพูดเสมอว่าผมไม่เคยสนใจว่าเราสองคนใครจะทำประตูหรือแอสซิสต์ได้มากกว่ากัน
ผมไม่เคยอิจฉาประตูที่อาร์เยนยิงได้ มันเป็นเรื่องของทีม เป็นเรื่องของบาเยิร์น
มิวนิค แม้แต่อาร์เยนก็แฮปปี้กับประตูทุกลูกที่ผมยิงได้”
ส่วนร็อบเบนก็ได้พูดถึงริเบรีหลังผลโหวตรางวัลฟีฟ่าบัลลงดอร์
2013 ซึ่งริเบรีอยู่ในอันดับ 3 ตามหลังคริสเตียโน่
โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี ว่า “เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมและสมควรได้รับการเสนอชื่อ
ถ้าอยากคว้าแชมป์ เราต้องมีริเบรี”
หลังจากที่
บาเยิร์นสามารถคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ ริเบรีก็จะทำสถิติเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์บุนเดสลีกาสูงสุดถึง
9 สมัย ในขณะที่ร็อบเบน ก็ทำสถิติ 8 สมัยเทียบเท่าเหล่าตำนานเสือใต้อย่าง
โอลิเวอร์ คาห์น ฟิลิปป์ ลาห์ม เมห์เมต โชลล์ และชไวน์ชไตเกอร์
ในฤดูกาลต่อไปเราจะไม่ได้เห็นคู่หูร็อบเบรีโลดแล่นในสนามอีกแล้ว
เพราะการเดินทางของตำนานคู่นี้ได้สิ้นสุดลงในเกมลีกนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้ ณ
วันที่ 18 พฤษภาคม
และเหมือนมีใครเขียนบทให้การจากลาของทั้งคู่เป็นที่จดจำของแฟน
"เสือใต้" ตลอดไป เมื่อ ริเบรี่ กับ ร็อบเบน
ถูกเปลี่ยนลงมายิงสั่งลาอย่างยิ่งใหญ่ในชัยชนะ 5-1 เหนือ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต จนช่วยให้ บาเยิร์น ทะยานคว้าแชมป์ลีก 7
สมัยติดต่อกัน และนับเป็นหนที่ 29 ของสโมสร
จากนี้ไป ไม่รู้ว่า
บาเยิร์นที่ไม่มีคู่หู "ร็อบเบรี" จะการันตีชัยชนะแบบเดิมได้อีกไหม?
ขอขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th








ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น